ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีอากาศสบาย ๆ ไม่ร้อนไม่หนาวมากเกินไป และยังมีทั้งทะเลและภูเขาให้ได้เที่ยวกันแบบชิล ๆ แถมผู้คนที่อยู่ในแต่ละพื้นที่ของสถานที่ท่องเที่ยวยังให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดี สถานที่ท่องเที่ยวในไทยจึงมีหลายที่ติดอันดับโลกแล้ว มีที่ไหนบ้าง มาดูกันเลย

ขอบคุณรูปภาพจาก www.kapook.com

1. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก

น้ำตกทีลอซู เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในไทยที่แรกที่คนทั่วโลกให้ความสนใจ เพราะเป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 300 เมตร น้ำตกทีลอซูได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 6 น้ำตกที่สวยที่สุดในโลก และเป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย ใครที่ได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันถึงความสวยงามและยิ่งใหญ่ แต่ถ้าใครสนใจอยากชมวิวสวย ๆ ของธรรมชาติแบบจุใจแนะนำให้เดินขึ้นไปด้านบนที่จุดชมวิว รับรองว่าจะยิ่งรู้สึกประทับใจที่นี่อย่างแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด

เปิดทุกวันสามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 08.00 – 15.00 น. ส่วนนักท่องเที่ยวที่ประสงค์พักค้างแรม สามารถเข้าได้ตั้งแต่เวลา 08.00 – 16.30 น.

ค่าเข้า

  • บุคคลทั่วไป 20 บาท
  • นักเรียนและนักศึกษา 10 บาท
  • ชาวต่างชาติ 200 บาท
  • รถยนต์ 4 ล้อ 30 บาท
ขอบคุณรูปภาพจาก www.kapook.com

การเดินทาง

ฤดูปกติ

ในช่วงปกติสามารถเดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1090 (อุ้มผาง-แม่สอด) ถึงหลักกิโลเมตรที่ 161 บ้านแม่กลองใหม่ เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1288 (บ้านแม่กลองใหม่-เบิ้งเคลิ้ง) ถึงด่านเดลอ (จุดตรวจ) เลี้ยวซ้ายเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ถนนช่วงนี้ต้องใช้รถกระบะหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีสมรรถนะสูงเท่านั้น รวมระยะทาง 50 กิโลเมตร

ฤดูฝน

ในช่วงฤดูฝนจะปิดเส้นทางเดินรถยนต์ เนื่องจากการสัญจรลำบาก และยังเป็นการพักฟื้นผืนป่าให้อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในช่วงเวลานี้ จะต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางก่อนทุกครั้ง โดยการเดินทางเข้ามี 2 เส้นทาง คือ

1. ล่องเรือยางจากท่าทราย อำเภออุ้มผาง ไปตามลำน้ำแม่กลอง ใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมง และเดินเท้าต่อไปยังน้ำตกทีลอซูอีกประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลา 3 ชั่วโมง

2. เดินเท้าตามเส้นทางรถจากหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวงถึงน้ำตกทีลอซู ระยะทาง 25 กิโลเมตร ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง

ขอบคุณรูปภาพจากเพจ STS Travel - Thailand

2. อุทยานพระพิฆเนศ จังหวัดนครนายก

อุทยานพระพิฆเนศเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในไทยที่ประดิษฐานพระพิฆเนศปางเสวยสุข โดยมีหน้าตักกว้าง 9 เมตร สูง 15เมตร และได้รับการยกย่องจากเลขาธิการศาสนสัมพันธ์ฮินดูโลกว่าเป็นพระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่พบมา ใครที่ชอบทำบุญ หรืออยากขอพรกับองค์พระพิฆเนศ ที่นี่ก็เป็นอีกที่ที่เราสามารถขอพรได้ ทางอุทยานได้จัดสถานที่ไว้สำหรับกราบไหว้บูชา ไหว้องค์พระพิฆเนศประจำวันเกิดของตนเอง และยังเป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ได้อีกด้วย

เวลาเปิด-ปิด

เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 น.-18.00 น.

ค่าเข้า

สามารถเข้าชมได้ฟรี

ขอบคุณรูปภาพจาก wwwtravel.trueid.net

การเดินทาง

จากตัวเมืองนครนายก ไปทางถนนสาริกา-นางรอง ถึงสี่แยกประชาเกษม เลี้ยวซ้ายไปทางน้ำตกลานรัก ถึงสี่แยกประชาเกษม เลี้ยวซ้ายไปทางน้ำตกลานรัก ประมาณ 200 เมตร อยู่ห่างตัวเมืองนครนายกราว 5 กิโลเมตร

ขอบคุณรูปภาพจาก www.klook.com

3. พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม พัทยา จังหวัดชลบุรี

พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม พัทยา จ.ชลบุรี สถานที่ท่องเที่ยวในไทยแนวประติมาสถาปัตย์ไม้แกะสลัก ที่ยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าของโลก สถานที่ซึ่งถ่ายทอดองค์ความรู้ในขั้นตอน และกระบวนการสร้างปราสาทไม้แกะสลักตั้งแต่เริ่มต้น จนกลายเป็นมหาปราสาทสุดอลังการ และงดงาม “ปราสาทสัจธรรม” เปรียบเสมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต บอกเล่าเรื่องราว คุณธรรมในการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ผ่านงานศิลปะไม้แกะสลัก ตามคติโบราณจากปราชญ์ในอดีต ผสมผสานภูมิปัญญาในปรัชญาของชาวสยาม และชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นำอดีตกลับสู่มวลมนุษยชาติ เพื่อสร้างศานติสุขในการอยู่ร่วมกัน ดังเจตนารมณ์ที่ว่า “นำสันติสุขสู่โลก โดยใช้ศิลปะเป็นสื่อ”

เวลาเปิด-ปิด

เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 น. – 17.00น.

ค่าเข้า

  • ผู้ใหญ่ 500 บาท
  • เด็ก (110-140 ซม.) 250 บาท
  • เด็ก (ต่ำกว่า 110 ซม.) เข้าฟรี
ขอบคุณลูกค้าจาก www.travel.mthai.com

การเดินทาง

ออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ขึ้นมอเตอร์เวย์หลวงพิเศษหมายเลข 7 จากนั้น มุ่งหน้าเข้าสู่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เข้าถนนเส้นหลักพัทยาเหนือและอ้อมวงเวียนปลาโลมา บริเวณโค้งโรงแรมดุสิตธานี เข้าสู่ถนนพัทยา-นาเกลือ เลี้ยวเข้านาเกลือซอย 12 มุ่งหน้าตรงเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ปราสาทสัจธรรม

ขอบคุณรูปภาพจาก www.chillpainai.com

4. เกาะราชา จังหวัดภูเก็ต

1 ในหมู่เกาะทะเลอันดามัน ซึ่ง National Geographic จัดให้เป็นหมู่เกาะที่สวยเป็นอันดับ 10 ของโลก เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในไทยที่มีหาดทรายขาวและน้ำทะเลใสสะอาด ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดภูเก็ต โดยนักท่องเที่ยวนิยมไปดำน้ำแบบ One Day Trip

เวลาเปิด-ปิด

สามารถเดินทางมาเที่ยวได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับตารางการเดินเรือ

ค่าเข้า

ไม่เสียค่าเข้า

ขอบคุณรูปภาพจาก www.www.egyptyha.com

การเดินทาง

รถยนต์

จากกรุงเทพฯ สามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ

1. ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือถนนธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ จนถึงชุมพร แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 41 ผ่านอำเภอหลังสวน อำเภอท่าฉาง แล้วแยกขวาเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 401 ไปจนบรรจบกับทางหลวงหมายเลข 4 ที่อำเภอตะกั่วป่า แยกซ้ายผ่านอำเภอท้ายเหมือง บ้านโคกกลอย แล้วข้ามสะพานสารสินเข้าสู่จังหวัดภูเก็ต

2. ใช้ทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2 หรือถนนธนบุรี-ปากท่อ) ผ่านสมุทรสาคร สมุทรสงคราม อำเภอปากท่อ แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 4 (เพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง พังงา ไปจนถึงภูเก็ต รวมระยะทางประมาณ 862 กิโลเมตร

รถทัวร์

จากสถานีขนส่งหมอชิตหรือสายใต้ ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมง ราคา 650 – 1,100 บาท

รถไฟ (ไม่มีไปถึงภูเก็ต)

 จากหัวลำโพงไปลงที่สุราษฎร์ธานี ประมาณ 11 ชั่วโมงแต่ต้องต่อรถทัวร์ไปยังภูเก็ตอีกประมาณ 4 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่ค่อนข้างนานพอสมควร

เครื่องบิน

เป็นวิธีที่สะดวกสบาย ประหยัดเวลา โดยใช้เวลาเดินทางเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง 20 นาที ในปัจจุบันตั๋วเครื่องบินไม่ได้มีราคาที่สูงมากเกินเอื้อม และมีสายการบินที่มีเที่ยวบินทั้งจากสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ บินไปลงยังสนามบินภูเก็ตวันละหลายเที่ยวด้วยกัน

ขอบคุณรูปภาพจาก www.th.trip.com

5. ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร

สถานที่ท่องเที่ยวในไทยที่เว็บไซต์ท่องเที่ยวระดับโลก Touropia ได้จัดให้ถนนข้าวสารเป็นถนนชื่อดังอันดับ 5 ของโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของกรุงเทพที่ชาวต่างชาติมาเที่ยวเป็นจำนวนมาก และยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยามค่ำคืน

เวลาเปิด-ปิด

เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ค่าเข้า

ไม่เสียค่าเข้า

ขอบคุณรูปภาพจาก www.www.springnews.co.th

การเดินทาง

เรือ

ท่าเรือที่ใกล้กับถนนข้าวสารคือ ท่าพระอาทิตย์ จากท่าพระอาทิตย์ สามารถเดินมาถนนข้าวสาร ระยะทางประมาณ 900 เมตร ใช้เวลาประมาณ 11 นาที

รถประจำทาง

มีรถประจำทางที่ผ่านถนนข้าวสารคือ สาย 3, 6, 30, 33, 64 และ 65

รถแท็กซี่

นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถแท็กซี่ หรือรถสามล้อ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทางในการเดินทาง

สรุป

หากใครที่อยู่เมืองไทยอยู่แล้วแต่เพิ่งเคยรู้ข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 5 ที่นี้ บอกเลยว่าห้ามพลาด สักครั้งในชีวิตต้องมาเที่ยวให้ได้ ส่วนใครที่อยู่ต่างประเทศแล้วสนใจอยากจะลองมาเที่ยวที่ประเทศไทย อย่าลืมเเวะเที่ยวทั้ง 5 สถานที่นี้ให้ครบนะ รับรองว่าเด็ดจริงเพราะระดับโลกได้การันตีแล้ว

Scroll to Top